
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 รศ. ดร.ยศพงษ์ ลออนวล Yossapong Laoonual ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน และหัวหน้าศูนย์ Mobility & Vehicle Technology Research Center มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมการขยายเปิดโครงการ Blue Switch สู่ภูมิภาคอาเซียน นำโดย อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย และรองประธานสายงานการตลาด และการขาย นิสสัน ภูมิภาคอาเซียน ร่วมจัดการปัญหาทางสังคมผ่านการใช้ประโยชน์จากความสามารถของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่ายานพาหน
ะโครงการ Blue Switch ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือชุมชน ทั้งในด้านการบรรเทาภัยพิบัติ และการจัดการพลังงาน
การบรรเทาภัยพิบัติตัวอย่างของการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของนิสสันในการนำรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำพลังงานไฟฟ้าจากนิสสัน ลีฟ มาใช้ในยามขาดแคลนไฟฟ้าขณะประสบภัยธรรมชาติ เช่น พายุไต้ฝุ่น ไร ในประเทศฟิลิปปินส์ โดย นิสสัน ลีฟ สามารถช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเมืองเซบู และทาโคลบัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงที่สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ถึง 1,000 เครื่อง
การแบ่งปันพลังงานและลดคาร์บอนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับที่อยู่อาศัย และชุมชน โดย นิสสัน ได้เปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้า หรือ Nissan Electrification Experience Center ที่โรงงานผลิตรถยนต์นิสสัน ในจังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย สถานที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และมอบประสบการณ์แก่สาธารณะด้านบทบาทของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรของโครงการ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นิจิคอน (ประเทศไทย) จำกัดนอกจากนี้ นิสสันยังส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานที่ 2 ของนิสสัน ประเทศไทย
ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นิสสัน ยังร่วมส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของภูมิภาคด้วยการศึกษาช่องทางการใช้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าที่ไร้มลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายการคมนาคมในท้องถิ่นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน
สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com#MOVE#KMUTT#สู่ลมหายใจไร้ฝุ่น#moveforwardforthebetterbreath